หนังสือ
"Inside the Box | คิดในกรอบ"
ผู้เขียน Drew Boyd, Jacob Godenbergผู้แปล อัญชลี ชัยชนะวิจิตร
สำนักพิมพ์ วีเลิร์น
ปัญหาในเล้าเป็ด
ครั้งยังเป็นเด็กมัธยมต้นแม่เลี้ยงเป็ดเทศไว้ฝูงใหญ่ หน้าที่ของข้าพเจ้าคือช่วยให้อาหารเป็ดในช่วงเย็น อาหารเป็ดของแม่คือรำข้าวด้วยราคามันถูกและเป็ดก็ชอบกิน เล้าเป็ดหลังบ้านของแม่ไม่กว้างแต่ก็ไม่แคบจะมีกะละมังเล็กๆ วางไว้ในระยะห่างๆ กันทั่วบริเวณไว้ใส่อาหารเป็ด อันนึงไว้ใส่รำข้าวที่คลุกน้ำแล้วอีกอันไว้ใส่น้ำให้เป็ดดื่มกิน แม่ก็จัดการสอนด้วยการทำให้ดูว่าต้องทำอย่างไร วิธีการของแม่คือ เดินไปหยิบกะละมังใส่อาหารเป็ดมายังจุดที่กระสอบรำข้าววางไว้ แล้วตักรำข้าวใส่กะละมังตามด้วยน้ำเปล่าจากนั้นก็ใช้มือคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเดินเอากะละมังไปไว้ที่เดิม วันไหนที่แม่อยู่บ้านแม่ก็จะทำเอง แต่วันไหนที่แม่กลับช้ากลับเย็นข้าพเจ้าก็ต้องรับหน้าที่เป็นผู้ให้อาหารเป็ด ข้าพเจ้าทำตามวิธีการของแม่อยู่ 4-5 ครั้ง ก็เริ่มขี้เกียจเพราะมันเสียเวลาที่จะเดินไปหยิบกะละมังมาใส่รำ คลุกเสร็จแล้วเดินกลับไปวางไว้ที่เดิม ให้อาหารแต่ละทีเดินไปเดินมาไม่รู้จะกี่รอบ ไหนจะเจ็บปลายนิ้วมือที่เวลาคลุกต้องจ้วงลงไป รำข้าวที่มันรวมกันหนาๆ จ้วงไปนานๆ มันเจ็บปลายนิ้วนะ แน่ละตอนที่ให้อาหารจะมีเป็ดเป็นลูกน้องเดินตามอยู่ตลอดเวลาปากก็อ้าร้องไม่หยุดหย่อน ไม่รู้ว่าจะด้วยอะไรเกิดปิ้งไอเดียขึ้นมา (ขี้เกียจด้วยแหละ อันที่จริงความขี้เกียจเป็นบ่อเกิดไอเดียดีๆ ของข้าพเจ้าเสมอมา แต่มันมีเงื่อนไขว่าขี้เกียจแล้วงานต้องเสร็จไม่งั้นก็โดนแม่เล่นงาน)
ครั้งยังเป็นเด็กมัธยมต้นแม่เลี้ยงเป็ดเทศไว้ฝูงใหญ่ หน้าที่ของข้าพเจ้าคือช่วยให้อาหารเป็ดในช่วงเย็น อาหารเป็ดของแม่คือรำข้าวด้วยราคามันถูกและเป็ดก็ชอบกิน เล้าเป็ดหลังบ้านของแม่ไม่กว้างแต่ก็ไม่แคบจะมีกะละมังเล็กๆ วางไว้ในระยะห่างๆ กันทั่วบริเวณไว้ใส่อาหารเป็ด อันนึงไว้ใส่รำข้าวที่คลุกน้ำแล้วอีกอันไว้ใส่น้ำให้เป็ดดื่มกิน แม่ก็จัดการสอนด้วยการทำให้ดูว่าต้องทำอย่างไร วิธีการของแม่คือ เดินไปหยิบกะละมังใส่อาหารเป็ดมายังจุดที่กระสอบรำข้าววางไว้ แล้วตักรำข้าวใส่กะละมังตามด้วยน้ำเปล่าจากนั้นก็ใช้มือคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเดินเอากะละมังไปไว้ที่เดิม วันไหนที่แม่อยู่บ้านแม่ก็จะทำเอง แต่วันไหนที่แม่กลับช้ากลับเย็นข้าพเจ้าก็ต้องรับหน้าที่เป็นผู้ให้อาหารเป็ด ข้าพเจ้าทำตามวิธีการของแม่อยู่ 4-5 ครั้ง ก็เริ่มขี้เกียจเพราะมันเสียเวลาที่จะเดินไปหยิบกะละมังมาใส่รำ คลุกเสร็จแล้วเดินกลับไปวางไว้ที่เดิม ให้อาหารแต่ละทีเดินไปเดินมาไม่รู้จะกี่รอบ ไหนจะเจ็บปลายนิ้วมือที่เวลาคลุกต้องจ้วงลงไป รำข้าวที่มันรวมกันหนาๆ จ้วงไปนานๆ มันเจ็บปลายนิ้วนะ แน่ละตอนที่ให้อาหารจะมีเป็ดเป็นลูกน้องเดินตามอยู่ตลอดเวลาปากก็อ้าร้องไม่หยุดหย่อน ไม่รู้ว่าจะด้วยอะไรเกิดปิ้งไอเดียขึ้นมา (ขี้เกียจด้วยแหละ อันที่จริงความขี้เกียจเป็นบ่อเกิดไอเดียดีๆ ของข้าพเจ้าเสมอมา แต่มันมีเงื่อนไขว่าขี้เกียจแล้วงานต้องเสร็จไม่งั้นก็โดนแม่เล่นงาน)
ข้าพเจ้าไปหาถังขนาดพอประมาณ คลุกรำพอได้ 3-4 กะละมัง จัดการตักรำข้าวเทน้ำแล้วก็จ้วงๆ ตอนนี้หาอะไรมาช่วยจ้วงแล้วเพราะเจ็บนิ้วมาก จากนั้นก็เดินเทรำลงในกะละมังเรื่อยๆ เท่านี้ก็ไม่ต้องเดินไปเดินมาแล้ว วันไหนที่ขี้เกียจมากๆ ข้าพเจ้าก็จัดการปั้นรำให้เป็นก้อนแล้วก็โยนให้ตรงกะละมัง หากจะแฉลบไม่ตรงเป้าไปบ้างเป็ดก็ช้อนกินอยู่ดี ทำอย่างนั้นอยู่ซักพักวันหนึ่งคุณแม่กลับบ้านไว เห็นลูกใช้วิธีการอันชาญฉลาดในการให้อาหารเป็ดจึงจัดการสวดซะยกใหญ่ ใครเขาทำอย่างนี้กัน ไอ้ที่สอนไปทำไมไม่ทำตาม สู่รู้นัก ข้าพเจ้ารู้นิสัยแม่ตัวเองดีก็เลยตอบไปแค่ว่า ก็อย่างนี้มันเร็ว อยากทำอย่างนี้แม่ไม่ชอบก็เอาไปทำเอง จากนั้นข้าพเจ้าก็เดินจากไป ผ่านไปเดือนนึงข้าพเจ้าเดินผ่านเล้าเป็ดเหลือบเห็นแม่ใช้วิธีการเดียวกับที่ข้าพเจ้าทำไม่มีผิด เพียงแต่ไม่โยนใส่กะละมังอาหารเป็ดก็เท่านั้น สรุปคือ จะสอนแม่ต้องทำให้เห็นอย่าใช้ปากสอน ฮา
วนอยู่ในกรอบ
หนึ่งในหลักการของการรังสรรค์ความคิดแปลกใหม่และได้ประโยชน์คือต้องนำพาความคิดตัวเองออกมาจากการยึดติดกับโครงสร้างหรือหน้าที่ของผลิตภัณฑ์ วิธีการ หรือบริการนั้นๆ อันนี้สรุปจากหนังสือนะ เราก็ใช้มานานแล้วแต่ไม่รู้ตัวและไม่รู้ว่ามันคืออะไร เช่นโทรศัพท์มือถือใครบอกว่าใช้โทรได้อย่างเดียว ใช้เป็นไฟฉายยามฉุกเฉินก็ได้ใช่ไหม
หนึ่งในหลักการของการรังสรรค์ความคิดแปลกใหม่และได้ประโยชน์คือต้องนำพาความคิดตัวเองออกมาจากการยึดติดกับโครงสร้างหรือหน้าที่ของผลิตภัณฑ์ วิธีการ หรือบริการนั้นๆ อันนี้สรุปจากหนังสือนะ เราก็ใช้มานานแล้วแต่ไม่รู้ตัวและไม่รู้ว่ามันคืออะไร เช่นโทรศัพท์มือถือใครบอกว่าใช้โทรได้อย่างเดียว ใช้เป็นไฟฉายยามฉุกเฉินก็ได้ใช่ไหม
คงมีหลายๆ คนที่อยากจะเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ ข้าพเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และการมีความคิดสร้างสรรค์ก็ต้องเป็นคิดนอกกรอบใช่ไหม จึงไปร้านหนังสือขวนขวายหาอ่านวิธีกการคิดนอกกรอบ การเป็นคนแนวสร้างสรรค์ อะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่สุดท้ายก็ได้แต่เป็นความคิดในตู้หนังสือของข้าพเจ้าอีกเล่มเพราะเอาไปใช้ไม่เป็น จากที่เคยอ่านที่พอจะจำได้ก็เช่น ต้องเป็นคนกล้าที่จะคิดไม่เหมือนคนอื่น คิดนอกกรอบ ฯลฯ คือเราพร้อมที่สุดแล้วนะที่จะคิดไม่เหมือนคนอื่นเพราะเราก็ใช้ชีวิตลักษณะนั้นเสมอมา แต่วิธีการที่จะคิดไม่เหมือนคนอื่นแต่มีประโยชน์มันต้องทำยังไงกันหาไม่เจอซักที หนังสือนำเสนอไอเดียกว้างๆ ไม่มีวิธีการ ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนแหวกว่ายอยู่ในทะเลที่กว้างไพศาลแต่คว้ายึดอะไรไว้ไม่ได้เลย ก็เลยสรุปเองว่ามันคงจะเป็นพรสวรรค์เฉพาะบุคคลมันคงไม่ใช่เรา เราผิดเองแหละที่ทำอย่างหนังสือไม่ได้ (แต่เรารู้สึกว่าเราก็สร้างสรรค์นะ เพราะในภาวะที่มีทรัพยากรจำกัดเรามักจะมีทางออกเจ๋งๆ ในการแก้ปัญหาให้ตัวเองอยู่เสมอ)
ก็ร้างลากันไปสำหรับความคิดอยากจะเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์จนมาเจอหนังสือเล่มนี้ แค่เห็นชื่อหนังสือข้าพเจ้าก็รู้ได้เลยว่ามันใช่ไอ้ที่กำลังหา เพราะด้วยหน้าที่การงานที่ต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าอยู่บ่อยๆ ในเวลาจำกัดด้วยทรัพยากรที่จำกัดข้าพเจ้ามักจะทำได้ดี หนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาที่เอามาใช้อยู่เสมอแต่ไม่รู้ตัวคือ การตั้งต้นจากผลลัพธ์แล้วย้อนไปหาวิธีการ เช่น จะต้องเดินทางในอีก 5 วัน แต่จะต้องทำพาสปอร์ตใหม่เพราะมีอายุไม่ถึง 6 เดือน ปัญหาคือวันที่ 4 คือวันอีดิลฟิตรี (ตรุษอิสลาม) และตัวเองก็อยู่ใต้แล้วทำไงดีเราไม่อยากพลาดโอกาสอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวในวันตรุษด้วย ข้าพเจ้าจะตั้งไว้ก่อนเลยว่าผลลัพธ์ที่อยากได้คือ อีก 3 วันพาสปอร์ตจะต้องอยูุ่ในมือโดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางขึ้น กทม เพื่อทำพาสปอร์ตใหม่ (เพราะมีความเป็นไปได้ว่าวันที่ 4 สำนักงานและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะหยุด) จากนั้นก็มานั่งคิดหาวิธีการเอาสิแต่เชื่อไหมว่าความเป็นไปได้และวิธีการมันผุดออกมาเรื่อยๆ เราก็เลือกและลองวิธีการที่ดีที่สุดและใช้ได้สะดวกที่สุด และวิธีการที่ข้าพเจ้าใช้เสมอมานั้นก็มีระบุอยู่ในหนังสือเล่มนี้ด้วยเหมือนกัน สุดจะภูมิใจ (ตัวอย่างเรื่องพาสปอร์ตข้าพเจ้าทำสำเร็จมาแล้วด้วยวิธีการดังกล่าว)
คิดในกรอบมันคิดกันยังไง
แนวคิดคร่าวๆ ของหนังสือคือการจะคิดสร้างสรรค์ได้ดีมันต้องคิดในกรอบไม่ใช่นอกกรอบ และความคิดสร้างสรรค์เป็นอะไรที่สามารถ/ควรจะคิดอย่างเป็นระบบและแบบแผน "มุมมองกระแสหลักบอกว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ไร้โครงสร้างและไม่เป็นไปตามกฏเกณฑ์หรือแบบแผนใดๆ คุณต้องคิดนอกกรอบถึงจะผุดแนวคิดแปลกใหม่ไม่เหมือนใครได้ คุณควรตั้งต้นจากปัญหาและระดมสมองหาไอเดียอย่างไร้ขอบเขตจนกว่าจะพบทางออก...การจินตนาการไปให้ไกลสุดๆ จะช่วยให้คุณผุดไอเดียที่แหวกแนวได้...แต่ในหนังสือเล่มนี้เราจะแสดงให้เห็นว่า คุณจะสามารถสร้างนวัตกรรมได้มากกว่า ดีกว่า และรวดเร็วกว่าเดิมเมื่อคิดภายในโลกที่คุณคุ้นเคย (ภายในกรอบนั้นแหละ) โดยอาศัยสิ่งที่เราเรียกว่า แม่แบบ" แนวคิดที่หนังสือเล่มนี้นำเสนอวางอยู่บนหลักการและงานวิจัยและมีตัวอย่างจากประสบการณ์จริงมาสนับสนุนนะครับไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆ
แนวคิดคร่าวๆ ของหนังสือคือการจะคิดสร้างสรรค์ได้ดีมันต้องคิดในกรอบไม่ใช่นอกกรอบ และความคิดสร้างสรรค์เป็นอะไรที่สามารถ/ควรจะคิดอย่างเป็นระบบและแบบแผน "มุมมองกระแสหลักบอกว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ไร้โครงสร้างและไม่เป็นไปตามกฏเกณฑ์หรือแบบแผนใดๆ คุณต้องคิดนอกกรอบถึงจะผุดแนวคิดแปลกใหม่ไม่เหมือนใครได้ คุณควรตั้งต้นจากปัญหาและระดมสมองหาไอเดียอย่างไร้ขอบเขตจนกว่าจะพบทางออก...การจินตนาการไปให้ไกลสุดๆ จะช่วยให้คุณผุดไอเดียที่แหวกแนวได้...แต่ในหนังสือเล่มนี้เราจะแสดงให้เห็นว่า คุณจะสามารถสร้างนวัตกรรมได้มากกว่า ดีกว่า และรวดเร็วกว่าเดิมเมื่อคิดภายในโลกที่คุณคุ้นเคย (ภายในกรอบนั้นแหละ) โดยอาศัยสิ่งที่เราเรียกว่า แม่แบบ" แนวคิดที่หนังสือเล่มนี้นำเสนอวางอยู่บนหลักการและงานวิจัยและมีตัวอย่างจากประสบการณ์จริงมาสนับสนุนนะครับไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆ
เทคนิค (แม่แบบ) การสร้างสิ่งใหม่ๆ แนวๆ จากโลกปิด (คิดในกรอบ)
๑. เทคนิคลบออก ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือรุ่นรับสายได้อย่างเดียว ส่วนที่ลบออกคือความสามารถในการโทรออก แล้วใครอยากได้โทรศัพท์รุ่นนี้ ก็พ่อแม่ที่อยากจะโทรถามและโทรตามลูกๆ แต่ไม่อยากให้ลูกใช้โทรออกฟุ่มเฟือยคุยกับเพื่อนๆ หรือใครๆ
๒. เทคนิคแยกส่วน เช่น การแยกมอเตอร์กับตัวปล่อยลมของเครื่องปรับอากาศออกจากกัน ตัวนึงอยู่ในบ้านอีกตัวอยู่นอกบ้าน หรือการเช็คอินไฟลท์จากคอมพิวเตอร์ที่บ้านแยกจากการเช็คอินที่เคาท์เตอร์ในสนามบิน
๓. เทคนิคการเพิ่มจำนวน เช่น มีดโกนหนวดที่มีใบมีด ๒ ใบ ใบแรกไว้ตัดให้สั้นใบที่สองเปลี่ยนองศานิดหน่อยไว้ตัดหนวดให้เกลี้ยง
๔. เทคนิคการรวมหน้าที่ เช่น ม้าหมุนเครื่องเล่นเด็กกับการปั๊มน้ำ เมื่อเด็กเริ่มเล่นและหมุน เครื่องเล่นก็จะปั๊มน้ำขึ้นมาเก็บไว้ในแท็งพร้อมใช้ต่อไป
๕. เทคนิคการเชื่อมโยง โดมิโนพิซซ่าสร้างความเชื่อมโยงระหว่างราคาพิซซ่ากับระยะเวลาการจัดส่ง ถ้าพนักงานส่งช้าเกิน ๓๐ นาทีลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าพิซซ่า โดมิโนพิซซ่าสามารถเพิ่มยอดขายด้วยวิธีการนี้
สำหรับข้าพเจ้าแล้วหลักการหลักๆ ที่เราต้องตระหนักในการคิดสร้างสรรค์คือ คลายความยึดติดและต้องจดจ่อ เมื่อเราเป็นอิสระและมีความจดจ่อความคิดดีๆ และความเป็นไปได้ใหม่ๆ จะโดดเด้งออกมาเอง
เป็นหนังสือน่าอ่านอีกเล่มที่อยากแนะนำเนื้อหาดีๆ ยังมีอีกมาก ตัวอย่างเยอะอ่านแล้วไม่เบื่อ
salindongbayu